แมกเนติก คืออะไร รวมทุกเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับแมกเนติกอย่างครบวงจร

แมกเนติก คืออะไร รวมทุกเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับแมกเนติกอย่างครบวงจร

Magnetic นั้นหากเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงของการทำงานที่เกี่ยวข้องน่าจะไม่มีใครรู้จัก รวมทั้งหลักการในการทำงานของแมกเนติกนั้นทำอย่างไร และการเลือกซื้อนั้นจะต้องใช้หลักการอะไรในการเลือกซื้อบ้าง วันนี้ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ มาให้ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว

แมกเนติก คืออะไร

หากพูดว่าแมกเนติกคอนแทคเตอร์คนทั่วไปคงจะไม่รู้จัก แต่ถ้าพูดในภาษาบ้านๆ ว่าอุปกรณ์ที่เป็นสวิตช์ตัดต่อวงจรไฟฟ้าก็คงจะเข้าใจมากขึ้น เพียงแต่วิธีการใช้งานจะต่างออกไปจากสวิตช์ทั่วไป นั่นคือจะทำการเปิดปิดด้วยหน้าสัมผัส โดยใช้แม่เหล็กเป็นตัวช่วยนั่นเอง เช่น เปิดปิดการทำงานของวงจรควบคุมมอเตอร์ที่ใช้ในวงจรของระบบแอร์ หรือระบบควบคุมมอเตอร์ทั้งหลายและจัดการควบคุมเครื่องจักรกลต่างๆ ซึ่งจะเป็นการนิยมใช้กันในหมวดอุตสาหกรรมและสินค้าที่อยู่ในบ้านเป็นบางรายการ บทความนี้จึงได้ทำไว้เพื่อให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าใจวิธการทำงานของแมกเนติกคอนแทคเตอร์มากขึ้น

การทำงานของแมกเนติก

แมกเนติกจะทำงานเมื่อมีกระไฟฟ้าไหลผ่านไปยังขดลวด ทำให้ contact ทั้ง 2 ชุดจะมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะการทำงานไปนั่นก็คือใน contact ปกติปิดจะทำการเปิดวงจรจุดสัมผัสออกและเมื่อ contact ปกติเปิดออกจะเป็นการต่อวงจรของจุดสัมผัสนั้นเองแต่หากไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปยังขดลวดสนามแม่เหล็ก contact ทั้ง 2 ชุดนั้นก็จะกลับเข้าไปสู่สภาวะเดิม ซึ่งส่วนประกอบในแมกเนติกนั้นจะเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการทำให้แมกเนติกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะต้องนึกถึงปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลต่อการทำงานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลือกอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และควรใช้ประเภทไหนให้เหมาะสมที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้คือข้อมูลที่จะช่วยทำให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและสามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในเวลางาน

ส่วนประกอบมีอะไรบ้าง

ในส่วนประกอบสำคัญของแมกเนติกคอนแทคเตอร์ จะขอพูดโดยรวมดังนี้

1. แกนเหล็ก

แกนเหล็กนี้จะมี 2 ส่วนซึ่งจะอยู่กับแกนเหล็กธรรมดาที่อยู่กับที่ และแกนเหล็กเคลื่อนที่นั่นเอง โดยแกนเหล็กผลิตจากแผ่นเหล็กบางๆ โดยจะมีการนำมาซ้อนกันเอาไว้ และเคลือบด้วยฉนวนไฟฟ้าอีกที ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกระแสไฟไหลวนในแกนเหล็ก ที่อาจจะส่งผลให้เกิดความร้อนภายในแกนเหล็กได้และแกนเหล็กนี้จะทำหน้าที่เส้นทางเดินของเส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งเส้นแรงแม่เหล็กนี้จะประกอบด้วย 2 ส่วนนั่นก็คือ

  • แกนเหล็กที่อยู่กับที่ ซึ่งเป็นแกนเหล็กที่มีขดลวดทองแดงพันอยู่ และจะทำหน้าที่ในการจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ AC เข้าไปที่ขดลวด ซึ่งผลก็คือจะทำให้เกิดการสั่นไหวตามมา โดยเส้นแรงของแม่เหล็กแล้ววงแหวนจะทำให้เกิดเส้นแรงต่างเฟสกับเส้นแรงของแม่เหล็กรักวงแหวนบางจึงเป็นตัวที่ช่วยลดการสั่นลง
  • แกนเหล็กเคลื่อนที่ เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ โดยแกนเหล็กเคลื่อนที่นั้นจะทำมาจากแผ่นเหล็กบาง และมีชุดหน้าสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้ยึดติดเอาไว้อยู่

2. ขดลวด

ขดลวดหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าคอยล์ เป็นวัสดุที่ทำมาจากลวดทองแดงพันอยู่กับรอบแกนล้อบ๊อบบิ้น ซึ่งขดลวดนี้จะมีการจ่ายไฟเพื่อให้ขดลวดทำหน้าที่เป็นการสร้างสนามแม่เหล็ก

3. contact

Contact หรือเรียกง่ายๆ เลยก็คือหน้าสัมผัส ซึ่งในแมกเนติกนั้นจะมีการนำมายึดติดเอาไว้กับแกนเหล็กชนิดเคลื่อนที่ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. สปริง

หน้าที่ของสปริงในการอยู่กับแมกเนติกคอนแทคเตอร์นี้ก็คือ มีหน้าที่ทำให้หน้าคอนแทคนั้นไม่สัมผัสกันนั่นเอง เพราะหากสัมผัสกันขึ้นมาจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้

เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม

การเลือกแมกเนติกมาใช้ให้เหมาะสมนั้น จะต้องดูจากหลายปัจจัยด้วยกัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด และนี่ก็คือปัจจัยที่จะต้องพิจารณาในการเลือกใช้

1. ประเภทของโหลด

แมกเนติกจะใช้ได้ดี จะต้องดูในเรื่องของประเภทของโหลด ซึ่งมีคำแนะนำว่าควรเลือกที่ได้มาตรฐาน iec เท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้แบบ Squirrel-cage motors เพราะมีคุณภาพมากกว่า และไม่ค่อยมีปัญหาในการใช้งานอีกด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องดูตามความเหมาะสมอีกที

2. Inrush Current

การเลือกใช้นั้นควรจะเลือกตัวที่สามารถรับการสตาร์ทของมอเตอร์ได้ เพราะการรันมอเตอร์ใช้กระแสไฟที่น้อยกว่าการสตาร์ทนั่นเอง ทั้งนี้ก็ต้องลองพิจารณาดู

3. แรงดันของระบบไฟฟ้า

โรงงานในไทยจะใช้แรงดันอยู่ที่ 400 โวลท์ แต่หากเป็นโรงงานญี่ปุ่นหรือจากบริษัทญี่ปุ่นจะใช้แรงดันแค่เพียง 110 โวลท์และที่สำคัญอุตสาหกรรมหลักๆ ในประเทศไทยจะใช้แรงดันที่สูงกว่า 440โวลท์ ดังนั้นจะต้องพิจารณาแรงดันของระบบไฟฟ้าให้ดี และเลือกแมกเนติกที่รองรับแรงดันที่ต้องการได้ หากเลือกมาใช้ไม่เหมาะสมจะเกิดปัญหาตามมาได้

นี่เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งเกี่ยวกับแมกเนติกเท่านั้น ซึ่งหากต้องทำงานในด้านที่เกี่ยวกับแมกเนติก หรือจำเป็นต้องใช้แมกเนติก ก็ควรที่จะศึกษาทำความเข้าใจกับข้อมูลต่างๆ ในเชิงลึกมากกว่านี้ เพื่อจะได้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม และเลือกแมกเนติกมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมศึกษาวิธีการดูแลรักษาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น