ฟังก์ชั่นพื้นฐาน ในรีโมทแอร์ ที่ควรต้องมี และต้องรู้ไว้ก่อนใช้งานจริง

ฟังก์ชั่นพื้นฐาน ในรีโมทแอร์ ที่ควรต้องมี และต้องรู้ไว้ก่อนใช้งานจริง

รีโมทแอร์ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยสับสนกับปุ่มต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนรีโมทแอร์ไม่มากก็น้อย ความจริงแล้ว ปุ่มต่าง ๆ บนรีโมท์แอร์ล้วนแล้วแต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหนือกว่าการเปิด-ปิดหรือการเพิ่มระดับความเร็วของพัดลม ซึ่งการทำความเข้าใจการทำงานของรีโมทแอร์จะช่วยให้เจ้าของสามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างเต็มขีดความสามารถนั่นเอง

5 ฟังก์ชั่นการใช้งานรีโมทแอร์

โดยปกติแล้ว เครื่องปรับอากาศทั่วไปจะประกอบด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน จำนวน 5 โหมดดังนี้

1. โหมดอัตโนมัติ (Auto Mode)

โหมดที่ใช้งานง่ายมากที่สุดของเครื่องปรับอากาศ Auto Mode หรือโหมดอัตโนมัติเป็นโหมดที่เครื่องปรับอากาศจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิและความเร็วของพัดลมให้สอดคล้องกับสภาพอากาศภายนอกและภายในโดยอัตโนมัติ โดยเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องจะมี Sensor ประจำตัวที่คอยเช็คอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน ไม่หนาวหรือร้อนมากจนเกินไป ซึ่งโหมดดังกล่าวก็เหมาะสมเป็นอย่างสำหรับออฟฟิศหรือสำนักงานที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะจะช่วยปรับอุณหภูมิห้องให้สอดคล้องกับจำนวนคนในห้องได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องแย่งปรับเพิ่ม-ลดอุณหภูมิกันจนกลายเป็นสงครามแย่งแอร์ ทั้งนี้ Auto Mode จะคอยปรับสลับกันไประหว่างโหมด Dry และ Cool ขึ้นอยู่กับระดับความชื้นภายในห้องที่ติดตั้งแอร์ เพื่อให้ได้อากาศที่เย็นสบายนั่นเอง

2. Cool Mode (โหมดทำความเย็น)

เป็นโหมดทำความเย็นที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าเพื่อปรับอุณหภูมิและความเร็วของพัดลมแอร์ได้ตามที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ห้องเย็นไว ๆ หรือผู้ที่กลัวว่าแอร์จะหนาวเกินไป ซึ่งวิธีการใช้งานก็ง่ายดายเป็นอย่างมาก เพียงแค่กดปุ่ม Cool บนรีโมทแอร์แล้วเลือกระดับอุณหภูมิที่ต้องการเท่านั้น โดยปกติแล้ว เครื่องปรับอากาศในโหมด Cool จะทำงานสักระยะหนึ่งก่อนที่จะตัดหยุดไปเมื่ออุณหภูมิลดลงถึงระดับที่ได้ตั้งค่าไว้ เป็นการช่วยประหยัดพลังงานนั่นเอง

3. Dry Mode (โหมดลดความชื้น)

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าปุ่มรูปหยดน้ำบนรีโมทแอร์นั้นเอาไว้ทำอะไร เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะเคยชินกับการใช้ Auto Mode หรือ Cool Mode เป็นประจำ แต่ปุ่มรูปหยดน้ำหรือ Dry Mode นั้นเป็นอีกปุ่มหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการใช้งานเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากเป็นปุ่มสำหรับการลดความชื้นในอากาศภายในห้อง ผ่านการควบแน่นความชื้นบริเวณแผงทำความเย็น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าปุ่มดังกล่าวช่วยไล่ความชื้นออกจากห้องนั่นเอง

เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับการรักษาวัสดุหรืออุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เหมาะกับการอยู่ในห้องที่มีความชื้นสูงอย่างหนังสือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยมีหลักการทำงานง่าย ๆ คือแผงทำความเย็นซึ่งมีอุณหภูมิที่ต่ำมากจะดึงดูดความชื้นให้มาควบแน่นจนกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำ ก่อนที่จะถูกระบายไหลออกไปตามท่อน้ำทิ้งนั่นเอง ทำให้อากาศภายในห้องแห้งขึ้น ส่งผลดีต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยควรทำเป็นครั้งคราวเพื่อไล่ความชื้นออกจากห้อง

4. โหมดพัดลม (Fan Mode)

โหมดเครื่องปรับอากาศโหมดนี้จะใช้การทำงานของพัดลมเป็นหลัก โดยลมที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศจะเป็นลมจากพัดลมธรรมดา ไม่ใช่ลมที่ผ่านกระบวนการของคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนอย่างใน Cool Mode นี่เป็นหนึ่งในโหมดที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ยกเว้นก็แต่ใน Auto Mode ที่บางครั้งหลังจากแอร์ตัดลงไปเนื่องจากอุณหภูมิภายในห้องอยู่ในระดับที่ได้ตั้งไว้แล้ว ระบบอาจจะเปลี่ยนไปใช้ Fan Mode ระยะสั้น ๆ ก่อนที่จะเริ่มใช้ Cool Mode เพื่อทำความเย็นต่อไปเมื่ออุณหภูมิห้องเริ่มสูงมากยิ่งขึ้น ปกติแล้ว Fan Mode มักจะใช้ในห้องที่ปิดทึบ หรือไม่มีหน้าต่างสำหรับไล่กลิ่นอับชื้นออกไป การเปิดใช้ Fan Mode ระยะสั้น ๆ ก็จะช่วยไล่กลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นอาหารได้เป็นอย่างดี

5. โหมดประหยัดพลังงาน (Smart Saving Mode)

เครื่องปรับอากาศปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีโหมดประหยัดพลังงานแถมมาด้วย อันเป็นโหมดที่สอดรับกับเทรนด์โลกร้อนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ซึ่งการทำงานของเครื่องปรับอากาศในโหมดนี้นั้นจะค่อนข้างช้า ไม่รีบทำความเย็นมากเหมือนกับ Cool Mode ที่แอร์จะทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้อุณหภูมิภายในห้องลดต่ำลงไปยังค่าที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว แต่โหมดประหยัดพลังงานจะค่อย ๆ ทำความเย็นไปเรื่อย ๆ แบบเงียบ ๆ เหมาะสำหรับการเปิดทิ้งไว้ในช่วงพักทานข้าวที่ไม่ค่อยมีใครอยู่ในห้อง เพื่อที่กลับมาจะได้ไม่ต้องรอให้แอร์เริ่มทำความเย็นใหม่ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นโหมด Cool อุณหภูมิก็จะกลับมาเย็นในทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลานานนั่นเอง

6. โหมดอีโคโน (Econo Cool)

เป็นโหมดที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นมากนัก แต่นับว่าเป็นหนึ่งในปุ่มบนรีโมทแอร์ที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะโหมดอีโคโนนั้นจะตั้งเป้าหมายให้เครื่องปรับอากาศลดระดับการทำงานลงประมาณ 20% กล่าวคือเป็นการรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่ โดยที่แอร์ค่อย ๆ ผ่อนการทำงานของคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นลง ก่อนที่จะใช้ความแรงของพัดลมกระจายให้ลมเย็นระบายออกไปทั่วทั้งบริเวณห้อง สร้างความเย็นสบายโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารทำความเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าไฟฟ้าหรืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการลดโลกร้อนด้วยการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

รีโมทแอร์นั้นนับว่าเป็นเครื่องมือที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้งานกันอย่างคุ้นชิน โดยละเลยที่จะทำความเข้าใจปุ่มและฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ให้เข้าใจ ทำให้ไม่ล่วงรู้ว่าเครื่องปรับอากาศที่ใช้งานทุกวันนั้นเต็มไปด้วยศักยภาพในการประหยัดพลังงาน ทำความเย็น ไล่ความชื้น และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้น การใช้รีโมทแอร์อย่างคล่องแคล่วและถูกวิธีก็นับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว