วิธีเลือก น้ำยาล้างแอร์ ให้เหมาะสม ได้คุณภาพ ล้างแอร์สะอาดและปลอดภัย
การเลือกน้ำยาล้างแอร์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคิดและใส่ใจให้มาก เพราะน้ำยาล้างแอร์มีหลายยี่ห้อ ซึ่งบางชนิดสามารถล้างได้สะอาด โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ภายในและภายนอกของแอร์ แต่น้ำยาล้างแอร์บางยี่ห้อ มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนและทำลายแอร์ให้เสียหายได้ จึงจำเป็นต้องเลือกยี่ห้อที่มีคุณสมบัติช่วยถนอมรักษาอุปกรณ์ไปพร้อมกันได้ด้วย สำหรับวิธีการเลือกน้ำยาล้างแอร์ให้ดี และเหมาะสมต่อการล้างแอร์ให้สะอาดจะต้องเลือกอย่างไรบ้าง ตามไปดูรายละเอียดดังนี้กันเลย
การเลือกน้ำยาล้างแอร์ตามชิ้นส่วนที่จะล้าง
เนื่องจากภายในตัวเครื่องปรับอากาศมักจะมีชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย ดังนั้น จะต้องเลือกน้ำยาล้างแอร์ที่จะใช้ล้างแต่ละชิ้นส่วนอย่างเหมาะสม เช่น การล้างฟิลคอยล์ (Field Coil) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของแอร์ที่ช่วยในการระบายความร้อนอยู่ด้านหน้าสุด และพัดลมช่วยในการส่งอากาศอยู่ด้านหลัง หากเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม สำหรับแต่ละชิ้นส่วนก็จะช่วยให้สามารถล้างสิ่งสกปรกให้หลุดออกไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งการล้างชิ้นส่วนที่สำคัญต่างๆ ก็ได้แก่
1. ฟิลคอยล์
เป็นตัวระบายตรงช่องรับอากาศเข้ามาจึงเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด เพราะฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ สามารถแทรกเข้ามาตามขอบพับโลหะขนาดเล็กของฟิลคอยด์ได้ จึงจำเป็นต้องใช้สเปรย์ที่มีความดันในการฉีดพ่นสูง เพื่อให้สิ่งสกปรกนั้นหลุดออกไป
2. พัดลมแอร์
เป็นส่วนที่อยู่ข้างหลังฟิลคอยล์ ทำหน้าที่ดูดอากาศเข้าไป จึงยากในการทำความสะอาด ทำให้มีฝุ่นละอองและเชื้อราที่เกิดจากความชื้นติดฝังแน่นนาน การล้างจึงต้องใช้โฟมเนื่องจากเนื้อโฟมจะเข้าไปเกาะติดกับพื้นผิวที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่ และจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้นให้หลุดออกไปพร้อมกับโฟมได้
การใช้สเปรย์ล้างเครื่องปรับอากาศ
เนื่องจากโครงสร้างภายในของแอร์มีความซับซ้อน แม้ว่าสเปรย์จะมีพลังในการพ่นไอน้ำสูงก็ตาม แต่น้ำยาล้างแอร์ก็ไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของแอร์ได้ ดังนั้นการล้างแอร์ให้สะอาดจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีหัวฉีดยาวๆ ซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์ประเภทโฟมหรือจะใช้เป็นสเปรย์ล้างแอร์ที่มีหัวฉีดยาว ก็สามารถทำความสะอาดได้ถึงพัดลมด้านหลัง แต่ต้องระมัดระวังเพราะหัวฉีดอาจจะทำให้ชิ้นส่วนของแอร์เสียหายได้
ตรวจสอบส่วนผสมของน้ำยาล้างแอร์ก่อนใช้
น้ำยาล้างแอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้อากาศภายในห้องสะอาด ส่งผลให้ผู้อาศัยรู้สึกสบาย อีกทั้งยังสามารถช่วยกำจัดกลิ่นและสิ่งสกปรกให้หมดไปได้อีกด้วย แต่จะต้องตรวจสอบองค์ประกอบของสารที่อยู่ในน้ำยาล้างแอร์ก่อนให้แน่ใจ หากเน้นเรื่องความปลอดภัยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน เช่น Alkaline Electrolyzed Water โดยเป็นน้ำยาที่ใช้ล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างๆ ของแอร์ แต่หากสูดดมจะเป็นอันตรายได้ รวมทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องสารแรงตึงผิวที่จะมีผลต่อร่างกาย และอาจสร้างความเสียหายให้แอร์ได้
เลือกน้ำยาล้างแอร์ที่มีส่วนผสมของสารกำจัดกลิ่น
หากแอร์ที่บ้านหรือในอาคาร มีปัญหาเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อยู่ในแอร์นั้น จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารกำจัดกลิ่นด้วย เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หมดไป เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นจากฝุ่น สัตว์เลี้ยง หรือน้ำมันจากการปรุงอาหาร หากเกรงว่าจะไม่สามารถล้างกลิ่นออกไปได้หมด อาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่เงิน หรือ Polyphenols จากชาเขียวก็จะช่วยขจัดปัญหาลงไปได้
น้ำยาล้างคอยล์แอร์ 4 in 1 ยี่ห้อ Thaiair Clean ฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นอับ เพิ่มความหอม
เลือกน้ำยาล้างแอร์ที่แห้งเร็ว
หลังจากที่ใช้น้ำยาล้างแอร์ ทำความสะอาดแอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องรอกระทั่งด้านในแห้งสนิท ระหว่างนี้จะยังไม่สามารถใช้แอร์ได้ เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนภายในที่เป็นโลหะได้รับความเสียหาย ฉะนั้นจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่แห้งเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศอย่างไร เช่น ร้อนอบอ้าว หรืออากาศเย็น ชื้น จะทำให้ลดระยะเวลาในการแห้งภายในแอร์ได้ รวมทั้งเพื่อให้น้ำยาล้างแอร์สามารถแห้งได้เร็ว ผู้ใช้งานจะต้องเลือกชนิดที่สามารถฉีดพ่นตำแหน่งของสิ่งสกปรกออกได้อย่างแม่นยำ โดยหลังฉีดพ่นแล้ว หากยังมีหยดน้ำเกาะอยู่บ้างเล็กน้อยก็ยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
เลือกน้ำยาล้างแอร์ที่ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นที่ชื่นชอบ
น้ำยาล้างแอร์มีมากมายหลายผลิตภัณฑ์ทั้งแบบที่มีกลิ่นและไม่มีกลิ่น โดยสามารถเลือกใช้ตามความชอบได้ หากชอบใช้แบบที่มีกลิ่น ระหว่างการทำความสะอาดแอร์จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นผสมด้วย โดยควรเลือกกลิ่นที่ชอบมากที่สุด เพราะหากเลือกกลิ่นที่ไม่ชอบมาใช้ จะทำให้กลิ่นนั้นอยู่กับบ้านและอาคารเป็นเวลานานกว่ากลิ่นน้ำยานั้นจะหายไป จึงต้องพิสูจน์ดมกลิ่นก่อนซื้อมาใช้ให้ดีก่อน ส่วนคนที่ชอบใช้น้ำหอมปรับอากาศภายในห้อง ควรใช้น้ำยาล้างแอร์แบบไม่มีกลิ่นจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดการผสมปนกันของกลิ่น
เลือกน้ำยาล้างแอร์ที่ไม่ทำลายแอร์
น้ำยาล้างแอร์บางชนิดที่เข้มข้นหรือมีฤทธิ์กำจัดสิ่งสกปรกแรงเกินไป จะทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือทำลายพื้นผิวของแอร์ได้ ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลงจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างฟินคอยล์ที่ทำความสะอาดคอยล์ได้ดี และจะต้องไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนกระทั่งทำให้แอร์เสียหาย
ข้อดีของการใช้น้ำยาล้างแอร์
สำหรับข้อดีของการใช้น้ำยาล้างแอร์ ก็มีดังนี้
1. ทำความสะอาดได้ดี และช่วยประหยัดพลังงานได้
การล้างแอร์ด้วยน้ำยาล้างแอร์โดยเฉพาะจะทำให้แอร์สะอาด ถือเป็นการบำรุงรักษาแอร์ ให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อแอร์ทำงานได้ดีแล้ว ก็จะส่งผลต่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ให้ความเย็นคงที่ รวมถึงแอร์ยังทำงานเงียบ ลดมลภาวะทางเสียงจากการทำงานของแอร์ได้อีกด้วย
2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้ดีขึ้น
เนื่องจากแอร์เมื่อใช้งานไปนานๆ มักจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปด้านในมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้าไปเกาะติดบริเวณคอยล์เย็น ซึ่งฝุ่นละอองเหล่านั้นจะไปขัดขวางการเข้าออกของลมที่ต้องเคลื่อนผ่านแอร์ ดังนั้น การใช้น้ำยาล้างฟินคอยล์และน้ำยาล้างแอร์ จะช่วยให้สามารถขจัดคราบสกปรกต่างๆ นั้นให้หมดไปได้ ส่งผลต่อการทำงานของแอร์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ลดการสะสมของเชื้อโรค
เนื่องจากระหว่างการทำงานของแอร์จะเกิดความชื้นขึ้น เพราะมีการควบแน่นของอากาศรอบๆ ซึ่งความชื้นนั้น จะทำให้จุลินทรีย์ต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อราเจริญเติบโตได้ดี และเมื่อใช้แอร์จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้เอง จึงต้องใช้น้ำยาล้างแอร์เพื่อช่วยลดปริมาณจุลินทรีย์ต่างๆ ในแอร์ให้น้อยลงที่สุด หรือให้หมดไปได้ ซึ่งจะยิ่งปลอดภัยต่อผู้ใช้แอร์เองด้วย
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างแอร์ จะต้องเลือกชนิดที่ไม่ทำความเสียหายให้กับแอร์ โดยไม่มีสารที่กัดกร่อน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศได้ยาวนานขึ้น และยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นของน้ำยาล้างแอร์จะเลือกใช้แบบที่มีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ แต่ข้อสำคัญในการเลือกผลิตภัณฑ์นั้น จะต้องล้างแอร์ให้สะอาดได้มากที่สุด