ลดโลกร้อน ด้วยน้ำยาแอร์ R32 ทางเลือกใหม่ สำหรับคนรักษ์สิ่งแวดล้อม

ลดโลกร้อน ด้วยน้ำยาแอร์ R32 ทางเลือกใหม่ สำหรับคนรักษ์สิ่งแวดล้อม

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1902 เป็นปีที่มีการสร้างเครื่องปรับอากาศเครื่องแรกของโลกขึ้น ซึ่งถูกสร้างโดยนักวิศกรเครื่องกลที่มีชื่อว่า Willis Haviland Carrier เขาได้ออกแบบเครื่องจักรลดความชื้นในอากาศออกมา เรียกกันว่า “Air Conditioning” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้มีอุตสาหกรรมผลิตเครื่องปรับอากาศเกิดขึ้นอย่างแพร่ไปทั่วทุกมุมโลก และได้มีการพัฒนามาจนถึงยุคปัจจุบัน

กลายเป็นเครื่องปรับอากาศหลากหลายรูปแบบ และสามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ ให้ประโยชน์ แต่ก็สามารถให้โทษได้เช่นเดียวกัน แน่นอนอยู่แล้วที่เครื่องปรับอากาศ หรือที่ “แอร์” สามารถให้ความเย็นสบายในแต่ละวันได้ดีมาก แต่โทษก็คือ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์ ดังนั้น การเลือกใช้สารทำความเย็นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ด้วยเหตุนี้ จึงขอแนะนำน้ำยาแอร์เย็นชนิด R32 เพราะเป็นน้ำยาแอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในยุคนี้

น้ำยาแอร์มีกี่ชนิด อะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร?

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ น้ำยาแอร์ชนิด R32 อยากให้ทราบกันก่อนว่ามีน้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพชนิดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันอีก 2 ชนิด คือ R22 และ R410A แต่ทั้ง 2 ชนิดนี้มีค่าการทำลายโอโซนสูงมาก เมื่อเทียบกับชนิด R32 ดังนี้

  • ชนิด R22 มีค่าการทำลายโอโซนประมาณ 1810 เท่าของคาร์บอนไดออกไซค์
  • ชนิด R410A มีค่าการทำลายโอโซนประมาณ 2,090 เท่าของคาร์บอนไดออกไซค์
  • ชนิด R32 มีค่าการทำลายโอโซนประมาณ 675 เท่าของคาร์บอนไดออกไซค์

เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยว่า R32 มีค่าการทำลายโอโซนต่ำมากที่สุด ในปี ค.ศ.1987 ได้มีการเปลี่ยนน้ำยาแอร์จาก R22 มาเป็น R410A และในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจาก R410A มาเป็น R32 แล้ว เพราะจากการทดลองใช้ R32 พบว่าสามารถช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้ดีมาก โดยส่งผลกระทบน้อยกว่าชนิด R410A ถึง 3 เท่าตัว และสารทำความเย็น R32 ยังมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงมากอีกด้วย โดยสูงกว่าชนิด R22 ถึง 60% และสูงกว่าชนิด R410A ถึง 20% ด้วยเหตุนี้ จึงมีการคิดค้นและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และยังค้นพบอีกว่าเมื่อ R32 ทำงานร่วมกับระบบอินเวอร์เตอร์ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานลงไปอีก เมื่อกล่าวโดยรวมจะได้ประโยชน์จากน้ำยาแอร์ R32 ดังนี้

  1. ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณต่ำกว่าน้ำยาแอร์ชนิดอื่นๆ
  2. มีผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศหรือชั้นโอโซนของโลกน้อยมาก หรืออาจไม่มีผลกระทบเลย
  3. ประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน เพราะมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูงและถือว่าสูงกว่ารุ่นอื่นๆด้วย นอกจากนี้ หากนำไปทำงานร่วมกับเครื่องปรับอากาศที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ จะยิ่งช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
  4. สารทำความเย็นรุ่นเก่ากำลังจะถูกยกเลิกการใช้งาน ดังนั้น เมื่อเลือกใช้ชนิด R32 จะสามารถรองรับการซ่อมแซมหรือการดูแลรักษาในอนาคตได้
  5. ราคาของ R32 เมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพและประโยชน์ที่ได้รับแล้ว ถือว่าเป็นน้ำยาแอร์ที่มีราคาเหมาะสมมาก

ประเทศที่เริ่มให้ความสนใจและพัฒนาทั้งเครื่องปรับอากาศและน้ำยาแอร์ คือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งน้ำยาแอร์ชนิดนี้กำลังถูกพูดถึงและใช้กันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทยเริ่มมีการใช้น้ำยาแอร์ R32 เมื่อไม่นานมานี้ โดยถูกเผยแพร่มาจากบริษัทผลิตเครื่องปรับอากาศที่มีศูนย์การผลิตจากญี่ปุ่น ทางกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นของประเทศไทยในปัจจุบัน ได้เตรียมวางแผนรองรับการใช้งานน้ำยาแอร์ R32 แล้ว ซึ่งหากสามารถเปลี่ยนมาใช้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะช่วยให้คนไทยประหยัดค่าไฟลงได้มากกว่าที่เคยเป็นอยู่ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนได้ นับว่าเป็นสารทำความเย็นที่ปฏิวัติวงการเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพได้อย่างดีแท้จริง